ทำความรู้จัก ฟิลเลอร์ (Filler) คือ อะไร ? 

ฟิลเลอร์

ปัจจุบัน หลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มยอดนิยม HA หรือ Hyaluronic Acid ที่เรามักจะพบได้ในสกินแคร์หลากหลายยี่ห้อในขณะนี้นั่นเอง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว ช่วยลดริ้วรอย และ ทำให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู เต่งตึง กระชับขึ้นด้วย 

ดังนั้นการ ฉีดฟิลเลอร์ จึงเป็นการเติมสารที่มีโปรโยชน์อยู่แล้วให้กับผิวโดยตรง จึงเห็นผลที่ชัดเจนกว่าการทาด้วยครีม หรือ สกินแคร์ โดยทั่วไป เท่านั้นยังม่พอ ยังช่วยเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ และ ปรับรูปหน้า ไปจนถึงอวัยวะอื่น ๆ เช่น ปาก หรือ คาง ได้อีกด้วย

หัวข้อ ฟิลเลอร์

ข้อเท็จจริงของ ฟิลเลอร์ (Filler) ที่คุณอาจไม่เคยรู้

  1. สาร Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารอุ้มน้ำ ดังนั่น หลังจากที่คุณ ฉีดฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีดนอกจากจะดูเต็มขึ้น ได้รูปตามที่คุณต้องการแล้ว ยังช่วยให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง เหมือนคุณดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร กันไปเลยนั่นเอง 
  2. ฟิลเลอร์ ของแท้จะสลายได้เองโดยธรรมชาติ ดังนั้น สำหรับใครที่กลัวว่า เติมฟิลเลอร์ มาแล้วจะไม่ชอบ หรือ ไม่เข้ากับใบหน้าก็ไม่ต้องกังวล เพราะ หลังจากฉีดประมาณ 6-24 เดือน (แล้วแต่ยี่ห้อ) มันจะค่อย ๆ สลายไปเอง 
  3. ด้วยความที่เป็นสารที่ผิวต้องการอยู่แล้ว อีกทั้งยังสลายได้เองโดยธรรมชาติ คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแพ้ หรือ สิ่งแปลกปลอมตกค้างในร่างกาย
  4. ปัจจุบัน ชนิดของสารเติมเต็มที่ อย. ไทยรองรับ และ ปลอดภัยที่สุด คือ Hyaluronic Acid ที่เป็นแบบชั่วคราวเท่านั้น หากคุณเจอ ฟิลเลอร์ถาวร หรือ การใช้สารเติมเต็มชนิดอื่น ๆ ให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด 
  5. การ ฉีด Filler เห็นผลหลังฉีดทันที ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาไม่นาน จึงเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยากสวยแบบข้ามคืน “ฉีดปุ๊ป สวยปั๊บ” 
  6. อีกหนึ่งคำถามสำหรับคนที่ยังไม่เคยฉีด และ สนใจอยากฉีดนั้นคือ ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม โดยทั่วไปจะไม่เจ็บมากนัก ไม่ต้องใช้ยาชา แค่ประคบเย็นก็ฉีดได้เลย ยกเว้นผิวบอกบางอย่าง ฟิลเลอร์ปาก ที่เจ็บมากขึ้นมาหน่อย แต่บอกเลยว่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัด และ หัตถการอื่น ๆ แล้ว ถือว่าเจ็บน้อยกว่ามาก ๆ 
  7. แม้ว่าสารที่นำมาฉีดนั้นจะไม่อันตราย แต่ หากคุณเลือกฉีดในบริเวณที่ไม่เหมาะสม หรือ ฉีดลงบนตำแหน่งชั้นผิวหนังที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถทำให้เกิดอันตราย และ ส่งผลเสียจนได้ผลลัพธ์ที่แย่จนคุณคาดไม่ถึงได้เช่นเดียวกัน

การ ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับใครบ้าง

  • คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ และ ต้องการบำรุง ฟื้นฟูผิว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับ รูขุมขนกว้าง หลุมสิว หรือ คนที่มีผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ร่องลึก บนใบหน้า เช่น ร่องน้ำหมาก มุมปาก หน้าผาก หางตา หรือ รอบ ๆ ดวงตา เป็นต้น 
  • คนที่ใบหน้าไม่สมส่วน เช่น ใบหน้าตอบ โหนกแก้มสูง ร่องแก้มลึก สามารถฉีด ฟิลเลอร์ เติมเต็มเพื่อให้ได้รูปหน้าที่สมส่วนขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้หน้าเด็กลงด้วย 
  • ปรับรูปทรงของอวัยวะที่ต้องการ ตำแหน่งที่นิยมได้แก่ ปาก และ คาง 
  • ใช้ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น โบท็อก , เมโสแฟต หรือ ไฮฟู่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด 

บริเวณที่ได้รับความนิยมในการใช้ ฟิลเลอร์ (Filler) มากที่สุด

ใต้ตา เป็นบริเวณที่มักมีริ้วรอย หรือ ลึก โหล ขอบตาคล้ำ ได้ง่ายที่สุด พาลให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา จึงจัดได้ว่าเป็นจุดแรก ๆ ที่นำ ฟิลเลอร์ มาใช้แก้ปัญหา ตา ช่วยให้ตาอิ่มฟู ดูแบ๋วใส แถมลดความหมองคล้ำทันที แบบที่ Eye cream ที่ไหนก็ทำให้ไม่ได้

ปัจจุบัน เทรนด์ความสวยเปลี่ยนแปลงไปมาก และ มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น จากแต่เดิม การตัดปากกระจับได้รับความนิยมมาก ต่างจากตอนนี้ ที่เทรนด์ ปากอวบอิ่ม ได้รับความนิยมมากกว่า การ เติมฟิลเลอร์ จึงถูกนำมาใช้แก้ไขปัญหาปากบาง ปากไม่ได้รูป ให้อวบอิ่ม แถมเพิ่มความกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 3 สไตล์ ทรงยอดนิยมของสาว ๆ ได้แก่ 

  • Sexy หรือ ปากทรง “สายฝอ” ที่อวบอิ่มทั้งริมฝีปากบนและล่าง ในอัตราส่วน 1:1 
  • Cherry หรือ “สายเกา” ที่ริมฝีปากบนหยักเป็นกระจับ ริมฝีปากล่างอิ่มหยักน้อย ๆ คล้ายลูกเชอร์รี่ ดูน่ารัก น่าจุ๊บ แบบไอดอลเกาหลี
  • Classy การ เติมฟิลเลอร์ แบบที่คงรูปปากเดิม ๆ ไว้อยู่ เพียงแต่ฉีดเพื่อลดร่องลึก เพิ่มความชุ่มชื่น ให้ปากดูอิ่ม และ สุขภาพดีขึ้น 

เป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมสำหรับการ ฉีดฟิลเลอร์ ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าสั้น ให้มีเชฟ เรียวยาวขึ้น การฉีด ฟิลเลอร์คาง ต้องระวัง ฟิลเลอร์ปลอม ให้ดี เพราะ มักมีคลินิกเถื่อนนำสารอื่น ๆ เช่น ซิลิโคนเหลว มาฉีดกันบ่อย ๆ จนเกิดข่าว คางเน่า ต้องขูด ทั้งอันตราย แถมทำให้หน้าผิดรูปยิ่งกว่าเดิม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นจุดที่อยู่กึ่งกลางใบหน้า ที่หากมีเยอะ จะทำให้หน้ายิ่งดูมีอายุมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เมื่อคุณ เติมฟิลเลอร์ บริเวณนี้ จะเห็นผลชัดเจนเรื่องหน้าเด็ก แต่ข้อควรระวังคือ บริเวณนี้ หากเติมเยอะไป จะทำให้หน้าดูแข็ง วิธีการที่แนะนำ ให้คุณเก็บรูปหน้า และ ฉีด Filler ที่บริเวณอื่น ๆ ก่อน หากยังมีร่องแก้มอยู่ ค่อยเติมเท่าที่จำเป็นเท่านั้น จะช่วยให้ดูละมุนพอดี ไม่แข็งเกินไป

ช่วยลดความสูงของโหนกแก้ม ให้ดูสมดุลขึ้น อีกทั้งนิยมถูกนำมาเสริมร่วมกับการ ฉีดโบท็อก ลิฟต์กรอบหน้า ไฮฟู่ หรือ หัตถการอื่น ๆ เพื่อช่วยยกหน้าให้ตึง กระชับ กรอบหน้าชัด ดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้น

เช็ค ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมากที่สุด

ฟิลเลอร์ ทุกยี่ห้อ ที่ อย. ไทย ในขณะนี้ ล้วนแล้วแต่มาจากสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid เท่านั้น ซึ่งมีหลายประเภท และ ฉีดฟิลเลอร์ ราคา แตกต่างกันออกไป ยี่ห้อยอดนิบมที่ใช้ในไทยมีดังต่อไปนี้

Juvederm

ฟิลเลอร์อเมริกา ที่ได้รับความนิยมสูง ใช้เทคโนโลยี 2 ชนิด ที่เรียกว่า Hylacross และ Vycross จึงช่วยให้อุ้มน้ำได้ดี บวมน้อย อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถขยับหน้าได้แบบธรรมชาติ

Restylane

เป็น Filler จากประเทศสวีเดน โดดเด่นด้วยหลาย ๆ รุ่น มีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดความเจ็บปวดขณะที่ฉีด จึงเหมาะมากหากใครที่กลัวว่า ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม มากที่สุด

Neuramis

ฟิลเลอร์เกาหลี รุ่นแรก ๆ ที่ถูกนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย มีหลายรุ่น หลายโมเลกุล มีโมเลกุลที่ค่อนข้างหนืด และ มีส่วนผสมของยาชา ช่วยให้ไม่เจ็บมากขณะที่ฉีด และ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาการ ฉีดฟิลเลอร์ ราคา ถูก หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

e.p.t.q.

อีกหนึ่ง ฟิลเลอร์เกาหลี ที่กำลังได้รับความนิยม มีหลายรุ่นให้เลือกฉีดได้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการ มียาชาผสมอยู่ อีกทั้งยังมี MoD ต่ำ ลดความเสี่ยงในการแพ้ ที่สำคัญที่สุด มีราคาที่ถูก สามารถฉีดให้ฉ่ำได้แบบจุก ๆ เลยทีเดียว

ข้อปฏิบัติตัว ก่อน และ หลัง เติมฟิลเลอร์ เพื่อความปลอดภัย และ คงประสิทธิภาพให้ดีที่สุด

หลังจากที่คุณพอจะทราบปัญหาที่คุณต้องการแก้ไขด้วย ฟิลเลอร์ และ สามารถเลือกชนิดที่ต้องการได้แล้ว มาดูการปฏิบัติตัว ก่อน และ หลัง ฉีดฟิลเลอร์ กันได้เลย 

  1. หากคุณมีโรคประจำตัว หรือ แพ้ยาชา ควรแจ้งทางคลินิก หรือ ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดทุกครั้ง 
  2. งดวิตามิน และ ยากลุ่ม ยา NSAIDs เช่น แอสไพริน ก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนฉีด 
  3. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ก่อน และ หลังฉีดอย่างน้อย 2-3 วัน 
  4. งดการใช้สกินแคร์ที่มีการผลัดผิวหน้า เช่น เรตินอล , วิตามิน A , BHA หรือ AHA ก่อนฉีดอย่างน้อย 3 วัน 
  5. ห้ามแกะ เกา บริเวณที่ฉีดอย่างเด็ดขาด 
  6. หลังฉีด 2-3 ชั่วโมง ห้ามนอนตะแคง 
  7. งดเล่นกีฬาหนัก ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนหลัง เติมฟิลเลอร์ 
  8. หากฉีดบริเวณคาง หลีกเลี่ยงการเท้าคาง ป้องกันการบิดเบี้ยว ผิดรูป 
  9. อย่างที่บอกไปแล้วว่า Hyaluronic Acid เป็นสารอุ้มน้ำ ดังนั้น หากต้องการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และ ได้อยู่นานมากที่สุด หลังฉีดแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 1-3 ลิตร 
  10. หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนโดยตรงในช่วงแรก เช่น การอาบน้ำร้อน และ การเป่าผมร้อน ๆ เป็นต้น  

เพิ่มความเยาว์วัย และ แก้ไขรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ฟิลเลอร์ (Filler) ตอบโจทย์แน่นอน

“ไม่ต้องพักฟื้นนาน เห็นผลทันที เจ็บน้อย” เลือก ฟิลเลอร์ เท่านั้น ไม่ว่าคุณต้องการฟื้นฟูให้ผิวอิ่มฟู สวยขึ้นทันตา ในชั่วโมงเร่งด่วน ย้อนวัยได้อย่างน้อย ๆ เป็น 10 ปี หรือ ต้องการปรับให้รูปหน้าสวยงามได้รูป เติมได้ทุกจุดบนใบหน้า ไม่อันตราย สลายเองได้ตามธรรมชาติ 

แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเลือกฉีดกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเท่านั้น เพื่อป้องกันอันตรายจากการฉีดผิดตำแหน่ง และ เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้ของแท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่คุณต้องการ คุ้มค่า คุ้มราคา และ ปลอดภัยมากที่สุด

Share the Post:
บทความยอดนิยม