ในปัจจุบันการเสริมหน้าอกกำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ ในปัจจุบันเพราะว่าการที่มีหน้าอกที่สวยงามจะสามารถทำให้ใส่เสื้อผ้าได้สวยงาม และทำให้ผู้หญิงดูมีเสน่และมีความมั่นใจขึ้นอย่างแน่นอน โดยเรื่องที่เราจะมาพูดกันในวันนี้คือการ โดยการฉีดไขมันหน้าอกก็คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนทีต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกแต่ไม่ต้องการทำการผ่าตัดเสริมซิลิโคน หรือไม่อยากรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดหลังจากการผ่า ในบทความนี้มาอธิบายถึงสิ่งที่ควรรู้ก่อนจะตัดสินใจเติมไขมันหน้าอกว่ามีอะไรบ้างทั้งเรื่องข้อดีและข้อเสียไปจนถึงการเตรียมตัวดูแลทั้งก่อนและหลังฉีด
ฉีดไขมันเสริมอก คืออะไร ?
ฉีดไขมันหน้าอก ( breast fat transfer ) คือการที่จะดูดไขมันส่วนเกินจากร่างกายและนำมาฉีดที่หน้าอกเพื่อเพิ่มความขนาดให้ใหญ่ตามที่ต้องการ ให้ดูกระชับเต่งตึงเท่ากันทั้งสองข้าง ลดการหย่อนคล้อยที่อาจเกิดจากการลดน้ำหนัก หรือ จากการให้นมบุตร โดยที่ทุกอย่างจะให้ผลเหมือนกับการเสริมซิลิโคน แต่ว่าจะปลอดภัยกว่าและความเสี่ยงน้อยกว่า และระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าในปัจจุบันจึงมีผู้ให้ความสนใจที่จะเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
วิธีการและขั้นตอนในการฉีดไขมันเสริมอก
- กระบวนการฉีดไขมันหน้าอกจะเริ่มต้นด้วยการให้แพทย์ทำความเข้าใจความต้องการและความประสงค์ของผู้รับบริการ แพทย์จะตรวจสอบสุขภาพของผู้รับบริการเพื่อให้แน่ใจว่าผู้รับบริการมีสภาพร่างกายที่พร้อมและเหมาะสมกับกระบวนการนี้
- แพทย์จะเลือกดูดไขมันจากส่วนอื่นในร่างกายเช่น สะโพก, หน้าท้อง, ต้นขา ออกจากร่างกาย
- ใช้เครื่องดูดไขมันอย่าง body jet ในการดูดไขมัน โดยเครื่องนี้จะทำการแยกไขมันออกให้ได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพดีไปฉีดในส่วนที่ต้องการ
- แพทย์จะทำการฆ่าเชื้อบริเวณหน้าอกและทำการฉีดไขมันที่แยกออกมาเข้าไปที่หน้าอก
ความเสี่ยงที่ต้องรู้ของการฉีดไขมันหน้าอก
เหตุผลที่ผู้หญิงต้องการฉีดนมอาจมาจากความไม่พอใจในขนาดหรือรูปร่างของหน้าอก เช่น หน้าอกเล็ก หรือไม่สม่ำเสมอ แต่การฉีดนมก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยง บางกรณีอาจเกิดผลข้างเคียงหรือปัญหาที่ไม่คาดคิดได้
- การติดเชื้อ: การฉีดนมอาจเป็นทางการเปิดทางเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในบางกรณี โดยเฉพาะถ้าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องในการทำความสะอาดและรักษาแผลหลังการฉีด
- การอักเสบ: หลังจากการฉีดนมอาจเกิดอาการอักเสบบริเวณหน้าอก อาจมีอาการบวม แดง ร้อน และเจ็บปวด เกิดจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- การหลุดไขมัน: ในบางกรณี ไขมันที่ฉีดเข้าไปในหน้าอกอาจหลุดหรือย่อยสลายได้ ทำให้ผลการฉีดนมไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ข้อเตรียมตัวก่อนฉีดนม
ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะฉีดนม คุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อให้การฉีดนมเป็นไปได้อย่างปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่ดี:
ปรึกษาแพทย์
คุณควรพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับความต้องการและความคาดหวังของคุณ เพื่อให้แพทย์ประเมินสถานะของคุณและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
ศึกษาข้อมูล
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการฉีดนม รวมถึงคำแนะนำและคำเตือนในการดูแลหลังการทำ
ตรวจสอบคุณสมบัติ
ตรวจสอบคุณสมบัติของไขมันที่จะใช้ในการฉีด เช่น ความสะอาดและปริมาณไขมันที่เพียงพอ
การดูแลหลังจากการฉีดไขมันนม
หลังจากการฉีดไขมันเสริมหน้าอก ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อรักษาแผลและลดความเสี่ยงของการแทรกซ้อน
การทำความสะอาด
- ใช้น้ำสะอาดและสบู่เพื่อล้างบริเวณแผล
- อย่าใช้สารที่มีส่วนผสมของสารเคมี เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ที่ผิวหนัง
การรักษาแผล
- ใช้ยาที่แพทย์สั่งให้ใช้ตามคำแนะนำ
- เปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความสะอาดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
ข้อดีและข้อเสียที่ได้รับจากการฉีดไขมันหน้าอก
ข้อดี
- เป็นวัสดุที่ร่างกายรับได้ เพราะไขมันที่ฉีดเข้าไปเป็นเซลล์ไขมันของผู้ป่วยเอง จึงมีโอกาสแพ้น้อยกว่าการใส่ซิลิโคน
- ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีลักษณะคล้ายกับเนื้อเยื่อหน้าอก จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่ซิลิโคน
- ลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืด การฉีดไขมันหน้าอกไม่ทำให้เกิดพังผืดเกาะที่หดรัดหน้าอก จึงลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหน้าอกผิดรูป
- ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง การฉีดไขมันหน้าอกไม่ใช้วัสดุสังเคราะห์ จึงลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม
ข้อเสีย
- เซลล์ไขมันมีโอกาสตายบางส่วน เซลล์ไขมันบางส่วนที่ฉีดเข้าไปอาจตายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ โดยแพทย์จะฉีดไขมันในปริมาณที่มากกว่าปกติ เผื่อการตายของเซลล์ไขมันอยู่แล้ว แต่หากเซลล์ไขมันตายไปมาก อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงตามที่ต้องการ
- อาจจำเป็นต้องฉีดหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยแพทย์จะประเมินผลลัพธ์หลังฉีดแต่ละครั้ง และพิจารณาว่าจำเป็นต้องฉีดเพิ่มหรือไม่
- อาจมีข้อจำกัดในคนที่ผอมมาก ๆ หรือมีอายุมาก เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ได้จะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกแอซิดมากกว่า
- อาจมีอาการบวมช้ำและรอยช้ำบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
- อาจมีความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อ แพทย์จะฉีดยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่หากเกิดการติดเชื้ออาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะเพิ่มเติม
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดไขมันหน้าอก
- ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง: ในบางกรณี ไขมันที่ฉีดเข้าไปในหน้าอกอาจไม่กระจายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่คาดหวัง
- ความผิดปกติ: การฉีดไขมันหน้าอกอาจทำให้เกิดความผิดปกติบริเวณหน้าอก เช่น ผิวหย่อนคล้อย หรือรูปร่างที่ไม่สม่ำเสมอ
- การฉีดซ้ำ: ในบางกรณี อาจต้องฉีดไขมันหน้าอกซ้ำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
( FAQ ) คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดหน้าอก
การฉีดนมมีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?
การฉีดไขมันหน้าอกอาจมีความเสี่ยงของการติดเชื้อ การอักเสบ และการหลุดไขมัน โดยเฉพาะถ้าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องในการดูแลแผลหลังการฉีด
การดูแลหลังการฉีดไขมันเสริมหน้าอกควรทำอย่างไร?
หลังจากการฉีดนม ควรทำความสะอาดแผลโดยใช้น้ำสะอาดและสบู่ รักษาแผลด้วยยาที่แพทย์สั่งให้ และเปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างสม่ำเสมอ
ฉีดไขมันหน้าอก ข้อเสียมีอะไรบ้าง?
การฉีดนมอาจมีข้อเสียและปัญหาที่ไม่คาดคิด เช่น ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ความผิดปกติบริเวณหน้าอก และการฉีดซ้ำหลายครั้ง ผลลัพธ์อาจจะอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควรเป็นหากดูแลหลังฉีดได้ไม่ดี
สรุป
การฉีดไขมันหน้าอกเป็นกระบวนการที่ได้รับความนิยมในการเสริมสัดส่วนหรือเพิ่มขนาดของหน้าอก โดยการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองที่ถูกดูดมาจากส่วนเกินต่าง ๆ เช่นต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดหน้าอกจะดูเป็นธรรมชาติมากไม่เป็นก้อนเหมือนกับการเสริมด้วยซิลิโคน แถมยังปลอดภัยกว่าเพราะว่าไม่มีความเสี่ยงเท่ากับการผ่าตัด