ฉีดไขมันหน้า ( Fat transfer ) คือ เทคนิคการเสริมความงามทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะมีความคล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ เติมเพื่อให้หน้าดูเยาว์วัยลง เติมเต็มใบหน้าให้ดูอวบอิ่ม เติมร่องต่าง ๆ บนใบหน้าให้ดูตื้นยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากจะสามารถนำมาฉีดไขมันหน้าได้แล้ว ยังสามารถนำไปใช้ฉีดในส่วนอื่น ๆ บนร่างกายได้อีกเช่นกัน ยกตัวอย่าง ฉีดไขมันหน้าอก เพื่อเพิ่มขนาดเสริมความอึ่ม ไปจนถึงการนำไปฉีดไขมันน้องสาวเพื่อลดริ้วรอยและแก้ไขรูปร่างให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ
ข้อดีของการฉีดไขมันหน้า
- เป็นการเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันของตัวเอง จึงมีความเป็นธรรมชาติสูง
- ประโยชน์หลายต่อเพราะว่าจะดูดไขมันส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากส่วน สะโพก, ต้นขา, หน้าท้อง
- ช่วยลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
- ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส มีน้ำมีนวล
- ใช้เติมเต็มร่องต่าง ๆ บนใบหน้าให้ดูเต็มอิ่มยิ่งขึ้น
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8 เดือนขึ้นไป
บริเวณที่นิยมทำการ ฉีดไขมันหน้า
การฉีดไขมันหน้านั้นสามารถทำการฉีดได้ตามจุดต่าง ๆ บทใบหน้าขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน โดยจุดที่เป็นที่นิยมในการฉีดไขมันได้แก่
- ฉีดไขมันหน้าผาก: เพื่อช่วยเติมเต็มบริเวณหน้าผากให้ดูเต็มขึ้น แก้ปัญหาหน้าผากแบน หรือหน้าผากมีรอยย่น
- ฉีดโหนกแก้ม: เพื่อช่วยเติมเต็มบริเวณโหนกแก้มให้ดูโดดเด่น แก้ปัญหาหน้าตอบ หรือแก้มตอบ
- ฉีดไขมันร่องแก้ม: เพื่อช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น แก้ปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัย
- ฉีดไขมันใต้ตา: เพื่อช่วยเติมเต็มใต้ตาให้ดูเต็มขึ้น แก้ปัญหาใต้ตาลึก หรือถุงใต้ตา
- ฉีดไขมันคาง: เพื่อช่วยเติมเต็มบริเวณคางให้ดูเรียวขึ้น แก้ปัญหาคางเล็ก หรือคางสั้น
ขั้นตอนการฉีดไขมันบนใบหน้า
- ปรึกษาแพทย์ถึงการนำไขมันมาฉีดในจุดต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูดไขมันส่วนเกินบนร่างกาย
- แยกไขมันที่มีคุณภาพเพื่อที่จะนำมาฉีดหน้า
- ทำความสะอาดบริเวณใบหน้าและฆ่าเชื้อเพื่อเตรียมตัวฉีด
- ฉีดไขมันที่มีคุณภาพที่แยกออกมาลงบนใบหน้า
เทคนิคการฉีดไขมันหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
เพื่อให้การฉีดไขมันหน้าได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกคลินิกหรือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ และใช้เทคนิคการฉีดที่ทันสมัย โดยเทคนิคการฉีดเติมไขมันหน้าในปัจจุบันมีดังนี้
- เทคนิค micro fat grafting เป็นการฉีดไขมันปริมาณน้อย ๆ กระจายทั่ว ๆ ในทุกชั้นของผิว ซึ่งจะช่วยให้ไขมันมีโอกาสรอดชีวิตได้มากที่สุด
- เทคนิค nano fat grafting เป็นการฉีดไขมันที่ผ่านการสกัดจนละเอียด ทำให้สามารถฉีดได้ลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- เทคนิค fat grafting เป็นการฉีดไขมันโดยใช้เครื่องช่วยในการฉีด ทำให้สามารถฉีดไขมันได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ
วิธีการเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดไขมัน
การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้า
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการที่เหมาะสม
- แจ้งประวัติทางการแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่รับประทานอยู่ และแพ้ยา
- งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาบางชนิด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันหน้า
- ประคบเย็น บริเวณที่ฉีดไขมัน เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมช้ำ
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้า เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดไขมัน ด้วยมือที่สกปรก
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการบวมช้ำและอักเสบ
- งดแต่งหน้า เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ควรนัดพบแพทย์เพื่อติดตามผลลัพธ์ อย่างน้อย 1-2 ครั้ง
ฉีกไขมันหน้า ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาฉีดไขมันหน้าจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีด ปริมาณไขมันที่ต้องการฉีด และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20,000-50,000 บาท
ความแตกต่างระหว่างฉีดไขมัน และ ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดไขมันหน้าและฉีดฟิลเลอร์หน้าเป็นวิธีการเสริมเติมเต็มใบหน้าที่ได้รับความนิยมในปี 2023 ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล
การฉีดไขมันหน้า
- ใช้ไขมันจากร่างกายของผู้ป่วยเอง จึงมีโอกาสแพ้น้อยกว่า
- ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีลักษณะคล้ายกับเนื้อเยื่อใบหน้า
- อยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปัจจัยส่วนบุคคลของแต่ละบุคคล
- มีความเสี่ยงที่เซลล์ไขมันอาจตายบางส่วน ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงตามที่ต้องการ
- อาจมีข้อจำกัดในคนที่ผอมมาก ๆ หรือมีอายุมาก เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ได้จะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร
- ใช้เวลาในการพักฟื้นนาน ประมาณ 1-2 สัปดาห์
การฉีดฟิลเลอร์หน้า
- ใช้สารเติมเต็ม เช่น กรดไฮยาลูโรนิคหรือคอลลาเจนสังเคราะห์
- ผลลัพธ์ที่ได้ทันที
- ใช้เวลาทำหัตถการสั้น
- เหมาะกับคนที่ผอมมาก ๆ หรือมีอายุมาก เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ได้จะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร
- อาจมีอาการแพ้ได้
- อยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 6-18 เดือน
การฉีดไขมันหน้าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหากต้องการผลลัพธ์ที่คงทนและดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์หน้าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหากต้องการผลลัพธ์ที่ได้ทันทีและเหมาะกับคนที่ผอมมากๆ หรือมีอายุมาก และมีค่าใช้จ่ายไม่มากพอ
รีวิวฉีดไขมันหน้า ก่อนและรับการฉีด
จากประสบการณ์ของผู้ที่ผ่านการฉีดไขมันหน้า ส่วนใหญ่พบว่าได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ใบหน้าดูอวบอิ่ม เข้ารูป และดูอ่อนเยาว์ลง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
สรุป
การฉีดไขมันหน้า ( Fat transfer ) ยังคงเป็นเทคนิคการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนอกเหนือจากการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติเหมือนไม่ได้ผ่านการเสริมความงามมา และยังมีระยะอยู่ได้นาน จึงเหมาะสำหรับทุกคนที่ไม่อยากรับความเสี่ยงจากการฟิลเลอร์หรือรับการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ทุกคนควรเลือกคลินิกหรือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากการฉีดไขมันตามต้องการ ต้องดูแลรักษาบริเวณที่รับการฉีดตามคำแนะนำที่แพทย์แนะนำ