ทำความรู้จัก สาเหตุการเกิด กระ บนใบหน้า มีอะไรบ้าง 

กระ

กระ ( Freckles ) คือ จุดด่างดำที่เกิดได้ทั่วร่างกาย ที่เห็นได้ชัด และ เป็นปัญหาสำหรับสาว ๆ หลายคนเลยก็คือ กระที่หน้า ลำคอ และ มือ นั่นเอง โดยหลายคนอาจจะยังแยกไม่ออกว่า เจ้าจุดเล็ก ๆ นี้ ต่างจาก ฝ้า ทั่วไปอย่างไร วิธีดูง่าย ๆ ก็คือ กระบนใบหน้า มักจะเป็นจุดเล็ก ๆ อาจมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ หรือ เข้ม แตกต่างจาก ฝ้า ที่มักจะเป็นปื้นหนานั่นเอง 

สาเหตุของการเป็น กระ นั้น มีสาเหตุหลักมาจาก “กรรมพันธุ์” ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น คุณมักจะเห็นชาวยุโรปมี ฝ้ากระ มากกว่าคนเอเชีย เป็นต้น (จนทำให้มีเทรนด์แต่งหน้าสาย ฝอ โดยการแต้มจุดเล็ก ๆ บนใบหน้า) แต่นอกจากนี้แล้ว “แสงแดด” ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้คุณเป็น กระลึก หรือ ทวีความรุนแรงของ รอยกระ ได้เช่นเดียวกัน   

หัวข้อ กระ

ประเภทของ กระ บนใบหน้า มีอะไรบ้าง

กระตื้น 

เป็นประเภทของ กระ ที่รักษาได้ง่ายที่สุด เพราะ ยังมีขนาดเล็ก และ ส่วนใหญ่มักมีสีไม่เข้มมาก มักจะพบได้บริเวณ โหนกแก้ม และ จมูก หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี หมั่นทาครีมกันแดดบ่อย ๆ ก็สามารถหายขาดได้ โดยส่วนมาก มักจะพบในคนยุโรปมากกว่า   

กระลึก 

เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีชั้นใน ลักษณะโดยทั่วไปจะคล้ายกับ กระตื้น แต่ มีความรุนแรงมากกว่า ทั้งในด้านของขนาด และ ความเข้มของสี ที่มักจะออกไปทางสีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีออกเทา มักพบในคนเอเชียมากกว่ายุโรป 

เกิดขึ้นได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ขมับ โหนกแก้ม หรือ จมูก เมื่อเป็น กระลึก หากคุณไม่ทากันแดดให้ดี โอกาสที่ความรุนแรงจะมากขึ้น ทั้งในเรื่อง สี และ ขนาด ก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายมาก 

กระเนื้อ 

กระเนื้อ เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของผิวหนังชั้นกำพร้า ทำให้เกิดเป็นก้อนนูนขนาดเล็ก มักพบบริเวณ ใบหน้า ลำคอ หรือ ทั่วตัว และ พบง่ายในคนสูงอายุ มีทั้งก้อนนูนผิวขรุขระ และ เรียบ สามารถรักษาโดยการ เลเซอร์กระ เท่านั้น  

กระแดด 

เป็นรอยปื้น สีน้ำตาล ลักษณะคล้ายเหรียญ 25 สตางค์  เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีที่ชั้นผิวหนัง เช่นเดียวกับ กระตื้น และ กระลึก มักจะพบในคนที่ทำงานกลางแจ้ง ต้องเจอแดดบ่อย ๆ หรือ คนสูงอายุ รักษาได้ด้วยการหมั่นทา ครีมกันแดด รวมถึงจะเห็นผลดีหากทำควบคู่กับการทำทรีทเมนท์ และ เลเซอร์กระ  

เปิดวิธี รักษากระ อย่างไร ให้ดีขึ้น มาดูกัน

การใช้สกินแคร์ และ ยารักษา กระ  

ส่วนสำคัญของการ รักษากระ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนั้น นอกจากจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Whitening ที่ช่วยลดความเข้มของเม็ดสีผิว ร่วมกับ ยา รักษากระ แล้ว อย่าลืมรักษาความชุ่มชื่นของผิว เพื่อรักษาความแข็งแรงของ skin barrier ด้วย เพราะ ยาที่ใช้รักษา ฝ้ากระ ส่วนใหญ่ มักจะทำให้ผิวแห้งได้ ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมเลือก ครีมกันแดด ที่มีประสิทธิภาพสูง มาทาอย่างสม่ำเสมอ โดยทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-20 นาที (ทาอย่างน้อย 2 ข้อนิ้วมือ หรือ ขนาดเท่าเหรียญ 10) และ ทาซ้ำเมื่อออกแดดอย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะหากอยู่กลางแดดจัด สามารถทำซ้ำได้ทุกชั่วโมง 

การทำ เลเซอร์กระ 

การทำเลเซอร์กระนั้นโดยแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ได้แก่ เลเซอร์ลดเม้ดสี เลเซอร์ลบเม็ดสี และ เลเซอร์ดึงเม็ดสี ซึ่งการเลเซอร์แต่ละแบบก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ที่จะได้แตกต่างกันออกไป 

เลเซอร์ลดเม็ดสี 

เป็นการใช้เลเซอร์ในการลดเม็ดสีผิว เมื่อ เม็ดสีผิวลดลง ก็จะทำให้ ฝ้ากระ ชนิดต่าง ๆ มีสีจางลง และ หายไปในที่สุดได้ หากเป็น กระตื้น ก็จะหายเร็วกว่า กระลึก กระเนื้อ และ กระแดด นอกจากนี้ สีที่เข้ม หรือ ขนาดที่ใหญ่ ก็จะยิ่งหายช้า ต้องใช้เวลาในการรักษา 

เลเซอร์กระ ชนิดลดเม็ดสี ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Pico laser เป็นต้น นอกจากในการเลือกชนิดของ เลเซอร์กระ แล้ว อย่าลืมเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ รวมไปถึงอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อได้รับผลดีที่สุด และ ปลอดภัย  

เลเซอร์ลบเม็ดสี 

ได้รับการพัฒนามาจาก เลเซอร์ดึงลดเม็ดสี โดยจะใช้เลเซอร์ยิงลงไปถึงระดับชั้นผิวที่ลึกกว่า จึงช่วยให้ผลการรักษาที่ไวกว่า และ ช่วยให้มีโอกาสหายได้ถาวรมากยิ่งกว่า โดยชนิดของเลเซอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ PicoWay 250 PS, Fusion 532 เป็นต้น 

เลเซอร์ดึงเม็ดสี 

เลเซอร์กระ ชนิดสุดท้ายนี้ ใช้รักษาได้ตั้งแต่ กระตื้น กระลึก กระเนื้อ และ กระแดด โดยนอกจากรักษาได้ดีกว่า เห็นผลเร็วกว่า และ ใช้จำนวนครั้งที่น้อยกว่า เลเซอร์ 2 แบบข้างต้นแล้ว ยังช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ดูสุขภาพดี ที่สำคัญ ช่วยให้ผิวสวย เนียนละเอียดมากขึ้นด้วย เป็นหนึ่งในหัตถการที่สาว ๆ ควรลองซักครั้งเลยก็ว่าได้  

พฤติกรรมเสี่ยง ที่ควรหลีกเลี่ยง หากคุณไม่อยากเป็น กระ

นอกจากคุณจะทราบเกี่ยวกับวิธีการ รักษากระ แล้ว คุณต้องทราบพฤติกรรมเสี่ยง ที่คุณควรต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด หากคุณไม่อยากให้เป็น กระ เพิ่มมากขึ้น และ รักษาให้หายขาดอย่างถาวร ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นได้แก่ 

  1. การไม่ทากันแดด แน่นอนว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมาก แต่บางครั้ง อาจจะด้วยเรื่องงาน และ ความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาจไม่เอื้อให้คุณสามารถเลี่ยงแดดได้ตลอด ดังนั้น การทากันแดดนี่แหละที่จะช่วยคุณได้ 
  2. การทากันแดดไม่ถูกวิธี นอกจากจะเลือกกันแดดที่มีประสิทธิภาพแล้ว ต้องทาอย่างถูกวิธีด้วย นั่นคือ การทาอย่างน้อย 2 ข้อนิ้ว หรือ ขนาดเหรียญ 10 และ ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เมื่ออยู่กลางแจ้ง รวมไปถึงต้องทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-20 นาที 
  3. การไม่ดูแลผิว ไม่เพียงแค่การทากันแดดเท่านั้น แต่การดูแลให้ผิวมีความแข็งแรง ชุ่มชื่นอยู่เสมอเองก็สำคัญ เพราะ หากผิวแห้ง และ ไม่แข็งแรง ก็จะทำให้แสงแดดทำร้ายผิวได้ง่ายขึ้นไปด้วยนั่นเอง 
  4. การเลือกสกินแคร์ที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะครีมที่มีสารอันตรายอย่าง ปรอท และ สเตียรอยด์ ที่มักจะทำให้ผิวขาวใสในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ จะทำให้ผิวอ่อนแอ จนไวต่อแสงมากขึ้น และเกิด ฝ้ากระ รอยดำ ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย 
  5. การรับประทานอาหาร โดยเฉพาะ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารรสจัด และ อาหาร fast food รวมไปถึงเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ ที่จะทำให้ร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระมากขึ้น ส่งผลทั้งในด้านการเกิด ฝ้ากระ และ ทำให้ผิวเหี่ยว หน้าแก่ ได้ หากคุณต้องการมีผิวสวยสดใส ให้รับประทานอาหารที่มีวิตามินซี ไฟเบอร์ รวมถึงดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้ว / วัน 
  6. การไม่ผ่อนคลาย หากคุณปล่อยให้ร่างกายมีความเครียดสะสม จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยให้ กระที่หน้า เข้มขึ้น หรือ ขยายใหญ่ขึ้น 
  7. การรับประทานยาคุมเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง เพราะ ยาคุม มีส่วนประกอบหลักคือฮอร์โมน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดความผิดปกติของเม็ดสี หรือ กระตุ้นการสร้างเม็ดสี ดังนั้น แนะนำให้คุณเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด เช่น ฝังยาคุม ฉีด หรือ หากไม่ต้องการมีลูกแล้ว สามารถทำหมันได้เลย 

การทำหัตถการ โดยเฉพาะ เลเซอร์ อย่างไม่ถูกวิธี อาจจะด้วยอุปกรณ์ที่ไม่พร้อม หรือ คนทำไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง นอกจากจะไม่ช่วยให้ผิวดีขึ้นแล้ว ซ้ำร้าย อาจทำให้ผิวหน้าบางลง และ ไวต่อแสง จนเกิดจุดด่างดำ ฝ้ากระ ได้ง่ายขึ้

กระ จุดเล็ก ๆ รักษาได้ง่ายเพียงเข้าใจ และ ดูแลอย่างถูกวิธี

แม้ว่าเทรนด์แต่งหน้าโดยการแต้มจุดเล็ก ๆ ทั่วหน้า จะได้รับความนิยม โดยเฉพาะกับสาว ๆ สาย ฝอ แต่หลายคนก็ยอมรับว่า อยากให้ผิวจริงนั่น สวย ใส ไร กระ กันมากกว่า ซึ่ง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีเจ้าจุดเล็ก ๆ กระจายบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม ไม่ต้องกังวลไป 

เพียงคุณทำความเข้า และ แยกประเภทให้ถูกต้อง ร่วมกับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี หรือ รักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญที่สุด คุณต้องไม่ลืมที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง อันเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิด กระบนใบหน้า และ ส่วนอื่น ๆ รวมไปถึงปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมตามคำแนะนำ เพียงเท่านี้ ผิวก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถหายขาดอย่างถาวรได้

Share the Post:
บทความยอดนิยม